ขออนุญาตกล่าวสวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ เนื่องจากทางบริษัทริชชี่ เฮ้าส์ จำกัด ได้มีการปรับปรุง Website เพื่อให้เป็นสาธารณะประโยชน์ แก่ท่านทั้งหลายที่กำลังมองหาบ้านหลังใหม่ จึงได้เกิดคอลัมน์นี้ขึ้น วิธีการเขียนอาจจะไม่ได้เป็นวิชาการ แต่จะเป็นเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังจากประสบการณ์จริงมากกว่า ซึ่งเนื้อหาในคอลัมน์นี้ต้องขอขอบคุณท่านสถาปนิกและวิศวกรที่มีประสบการณ์ทั้งหลายที่เสียสละเวลาช่วยเรียบเรียงให้ ดังนั้นหวังว่าเนื้อหาทั้งหลายจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย
ปัจจุบันนี้เป็นยุคของผู้บริโภค ผู้ที่ต้องการจะมีบ้านหลังใหม่มีทางเลือกมากขึ้น มีโอกาสเปรียบเทียบมากกว่าแต่ก่อนมาก แต่ปัญหาก็คือการขาดองค์ความรู้ที่จะนำมาพิจารณาตัดสินใจพิจารณาทางเลือกเหล่านั้น ว่าทางไหนเป็นทางที่ดีที่สุด จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งที่ท่านทั้งหลายควรจะมีความรู้และความเข้าใจขั้นพื้นฐาน บางท่านอาจได้รับข้อมูลมาบ้างแล้วแต่สำหรับท่านที่เริ่มหาข้อมูล อย่างน้อยก็เพื่อที่จะสามารถตัดสินใจเลือกได้อย่างเหมาะสมที่สุด
สำหรับเรื่องแรกที่เราจะพูดคุยกัน จะเริ่มจาก เรื่องทางเลือกในการมีบ้านใหม่ หลายท่านคงจะมีคำถามว่าการที่จะมีบ้านสักหลังนั้นมีกี่ทางเลือก มาดูทางเลือกพร้อม ๆ กันเลยครับ
ทางเลือกแรกที่เรา ๆ ท่าน ๆ คุ้นเคยก็คือ การมองหาบ้านจากโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ในทำเลที่ต้องการ หลังจากนั้นก็เข้าไปสำรวจที่โครงการ เพื่อดูบรรยากาศ ตัวบ้านและสาธารณูปโภค รวมทั้งพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ที่โครงการเสนอให้เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ข้อดีของการเลือกซื้อบ้านจากโครงการก็คือ เรื่องของสภาพสังคมแวดล้อมในโครงการที่ท่านสามารถเลือกได้ ว่าต้องการมีสังคมแบบไหน โดยการเลือกซื้อบ้านในระดับราคาต่าง ๆ กันออกไป อีกทั้งยังหมดห่วงในเรื่องของสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอันได้แก่ ประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ ซึ่งจะถูกจัดหามาอย่างพร้อมเพรียง โดยที่ท่านไม่ต้องเดินเรื่องกับแต่ละหน่วยงานเอง และได้สัมผัสกับบ้านที่ตัวเองต้องการจะอยู่ แต่ทั้งนี้ต้องไม่คำนึงถึงความเป็นเอกลักษณ์เป็นเรื่องสำคัญ เพราะทุกหลังจะดูคล้าย ๆ กันหมด นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความ(ดูเหมือนจะ)ปลอดภัยจากขโมย ซึ่งแน่นอนว่าจะมี บริษัท รปภ.ช่วยดูแลให้
ส่วนข้อเสียของการเลือกซื้อบ้านแบบนี้ก็คือ เรื่องของคุณภาพการก่อสร้าง ซึ่งท่านจะไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าบ้านแต่ละหลังมีความสมบูรณ์ แข็งแรงมากแค่ไหน (ก็หิ้วกระเป๋าเข้ามาตอนที่บ้านสร้างเสร็จแล้วนี่ครับ) และวัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่เลือกใช้มักมีคุณภาพตั้งแต่ระดับที่ปกติทั่วไปจนถึงระดับที่ดีปานกลางเท่านั้น (แม้ว่าบ้านนั้นจะแพงเท่าใดก็ตาม) เนื่องจากเจ้าของโครงการต้องควบคุมต้นทุนก่อสร้างไม่ให้สูงเกินไป และบางครั้งอาจไม่ได้ประโยชน์ใช้สอยหรือวัสดุอุปกรณ์ครบถ้วนตามความต้องการ ซึ่งอาจจะมีส่วนขาดส่วนเกินบ้าง (เพราะเขากำหนดมาให้เสร็จแล้วว่าคนส่วนใหญ่คิดว่าเหมาะสม) นอกจากนี้ ราคาบ้านจะค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับทางเลือกประเภทอื่น ๆ (ที่จะอธิบายต่อไป) เพราะต้องรวมค่าก่อสร้างสาธารณูปโภคส่วนกลาง เช่น ค่าสวนสาธารณะ ค่าถมดินทำถนนเข้าโครงการ ถนนคอนกรีต ท่อน้ำทิ้งและเสาไฟฟ้าทั้งโครงการ รวมถึงต้นทุนการทำการตลาดและส่งเสริมงานขาย และดอกเบี้ยธนาคารที่นำมาใช้ในการบริหารโครงการ ดังนั้นท่านคงต้องมาพิจารณาเปรียบเทียบแล้วว่าข้อดีที่ได้รับมากกว่าข้อเสียหรือไม่ คราวหน้าเราจะมาคุยต่อถึงทางเลือกที่สองครับ