สวัสดีอีกครั้งครับท่านผู้อ่าน หลังจากที่ท่านได้ทำเลที่จะปลูกบ้านแล้ว อันดับต่อไปเราต้องมาดูกันถึงเรื่องการเลือกคนที่จะมาปลูกบ้านให้กับเราใช่ไหมครับ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากที่จะหาผู้ที่เราถูกใจและไว้ใจได้มาสร้างบ้านที่เราต้องการอยู่ไปอีกนาน หรือบางท่านอาจจะเป็นบ้านหลังสุดท้ายที่ตั้งใจจะอยู่ทั้งชีวิต เพราะฉะนั้นเราคงต้องคัดเลือกกันดีๆ เอาหล่ะ… ถ้าอย่างนั้นผมจะขอพูดถึงการเลือกผู้ปลูกสร้างบ้าน รวมทั้งข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภท เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ให้ท่านประกอบการตัดสินใจเลือกผู้ที่จะมาปลูกสร้างบ้านให้ท่านนะครับ
ประเภทแรกที่ผมจะพูดถึงคือการว่าจ้างสถาปนิกในการออกแบบ หลายท่านคงสงสัยว่าทำไมจะต้องจ้างสถาปนิก ในเมื่อเราเปิดหนังสือให้ช่างก่อสร้างดูก็ได้ว่าอยากได้แบบไหน แต่หลายครั้งที่มันออกมาไม่ได้อย่างที่คิดไว้ ดังนั้นผมว่าบ้านที่เราตั้งใจจะอยู่ไปอีกหลายสิบปี น่าจะปล่อยเป็นหน้าที่ของผู้รู้มากกว่านะครับ
สำหรับการจ้างสถาปนิกออกแบบนั้น ท่านก็ยังต้องตัดสินใจอีกว่าจะจ้างบริษัทฯ ออกแบบหรือจ้างแบบบุคคลที่เราเรียกกันว่า Freelance ซึ่งการจ้างบริษัทฯ ออกแบบนั้นข้อดีคือมีขั้นตอนและมาตรฐานในการทำงาน แต่ราคาค่อนข้างสูง ส่วนแบบสถาปนิก Freelance นั้นราคาย่อมเยากว่า แต่ต้องระวังในเรื่องมาตรฐานการทำงานด้วย เช่น แบบละเอียดพอหรือยัง ทำการก่อสร้างได้จริงหรือไม่ รวมทั้งความรับผิดชอบของสถาปนิกผู้นั้นเมื่อดำเนินการแล้วเกิดปัญหาต้องแก้ไข (อันนี้ผมไม่ได้เหมารวมทุกท่านนะครับ)
ไม่ว่าท่านจะตัดสินใจเลือกบริษัทฯ ออกแบบหรือผู้ออกแบบ Freelance ทั้ง 2 แบบ ท่านจะต้องจ่ายค่าบริการทางวิชาชีพขั้นพื้นฐานซึ่งกำหนดเป็นเปอร์เซ็นของมูลค่างานก่อสร้าง ค่าออกแบบนี้สถาปนิกไม่ได้รับเองทั้งหมดนะครับ เค้าจะแบ่งเป็นสัดส่วนให้กับวิศวกรด้วยครับ
หลังจากออกแบบบ้านเป็นที่ถูกใจของท่านเจ้าของบ้านแล้ว ก็จะถึงขั้นตอนการหาผู้รับเหมาที่จะมาปลูกสร้างบ้านตามแบบนั้น จะเห็นได้ว่าถ้าท่านเลือกวิธีนี้ท่านจะต้องติดต่อกับคนหลายกลุ่มกว่าจะได้บ้าน 1 หลังครับ คราวหน้าผมจะพูดถึงผู้ปลูกสร้างบ้านอีกประเภทหนึ่ง คือ “บริษัทรับสร้างบ้าน” ซึ่งให้บริการแบบ One Stop Service ช่วยท่านลดความยุ่งยาก ทำให้ท่านสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นครับ